Home » Archives for มกราคม 2014
ธกส รับสมัครสอบบุคคลภายนอกเพื่อปฏิบัติงานพัฒนาธุรกิจระดับ 4 และการเงินระดับ 4 ประจำสาขาและสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัด ปีบัญชี 2556
ธกส รับสมัครสอบบุคคลภายนอกเพื่อปฏิบัติงานพัฒนาธุรกิจระดับ 4 และการเงินระดับ 4 ประจำสาขาและสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัด ปีบัญชี 2556
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรมีความประสงค์จะรับสมัครสอบบุคคลภายนอก เพื่อปฏิบัติงานพัฒนาธุรกิจ และการเงิน ประจำสาขา และสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัด ปีบัญชี 2556
ผู้สมัครจะต้องอ่านประกาศการรับสมัครและรับผิดชอบตรวจสอบตนเองว่าเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษา และคุณสมบัติตรงตามประกาศรับสมัครทุกประการ หากธนาคารตรวจพบว่าคุณสมบัติของผู้สมัครท่านใดไม่ตรงตามที่ธนาคารกำหนดไว้ ธนาคารจะตัดรายชื่อออกจากผู้สอบทุกขั้นตอน หรือในกรณีที่ดำเนินการจ้างแล้วธนาคารจะเลิกจ้างทันที โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้นได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ประกาศรับสมัคร และธนาคารจะพิจารณาผู้สมัครเฉพาะผู้สมัครตั้งแต่วันที่ 13 - 19 มกราคม 2557 เท่านั้น หากสมัครก่อนหรือหลังจากที่ธนาคารกำหนดธนาคารจะถือว่าไม่ใช่ผู้สมัครตามประกาศฉบับนีั้่
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรมีความประสงค์จะรับสมัครสอบบุคคลภายนอก เพื่อปฏิบัติงานพัฒนาธุรกิจ และการเงิน ประจำสาขา และสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัด ปีบัญชี 2556
ผู้สมัครจะต้องอ่านประกาศการรับสมัครและรับผิดชอบตรวจสอบตนเองว่าเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษา และคุณสมบัติตรงตามประกาศรับสมัครทุกประการ หากธนาคารตรวจพบว่าคุณสมบัติของผู้สมัครท่านใดไม่ตรงตามที่ธนาคารกำหนดไว้ ธนาคารจะตัดรายชื่อออกจากผู้สอบทุกขั้นตอน หรือในกรณีที่ดำเนินการจ้างแล้วธนาคารจะเลิกจ้างทันที โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้นได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ประกาศรับสมัคร และธนาคารจะพิจารณาผู้สมัครเฉพาะผู้สมัครตั้งแต่วันที่ 13 - 19 มกราคม 2557 เท่านั้น หากสมัครก่อนหรือหลังจากที่ธนาคารกำหนดธนาคารจะถือว่าไม่ใช่ผู้สมัครตามประกาศฉบับนีั้่
รายละเอียดเพิ่มเติม
http://www.baac.or.th/content-job.php?content_id=012576&content_group_sub=0007&content_group=0003&inside=1
กรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดรับสมัครสอบ นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ บรรจุเข้ารับราชการ 1 ตำแหน่ง 4 อัตรา สมัครได้ตั้งแต่วันที่ 9 - 29 ม.ค.57
กรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดรับสมัครสอบ บรรจุเข้ารับราชการ 1 ตำแหน่ง 4 อัตรา
สมัครได้ตั้งแต่วันที่ 9 - 29 ม.ค.57
ตำแหน่ง : นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ
อัตราเงินเดือน : 15,000 - 16,500 บาท
จำนวนตำแหน่งว่าง : 4 อัตรา
ระดับการศึกษา : ปริญญาตรี
รายละเอียดวุฒิ :
(1) ได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชารัฐศาสตร์ และ
(2) เป็นผู้สอบผ่านความรู้ความสามารถทั่วไป ระดับปริญญาตรีขึ้นไป ของ ก.พ.
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ : ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางวิชาการในการทำงาน
ปฏิบัติงานด้านการบริหารจัดการภายในสำนักงานหรือการบริหารราชการทั่วไป ภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติการ
(1) ศึกษา รวบรวมข้อมูล สถิติ สรุปรายงาน เพื่อสนับสนุนการบริหารสำนักงานในด้านต่างๆ เช่น งานบริหารทรัพยากรบุคคล งานบริหารงบประมาณ งานบริหารแผนปฏิบัติราชการ งานบริหารอาคารสถานที่ และงานสัญญาต่างๆ เป็นต้น
(2) ปฏิบัติงานเลขานุการของผู้บริหาร เช่น การกลั่นกรองเรื่อง การจัดเตรียมเอกสารสำหรับการประชุม เป็นต้น เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการวินิจฉัยสั่งการของผู้บริหาร
(3) จัดเตรียมการประชุม บันทึกและเรียบเรียงรายงานการประชุม และรายงานอื่นๆ เพื่อให้การบริหารการประชุมมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน
(4) ทำเรื่องติดต่อกับหน่วยงานและบุคคลต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนด
(5) ช่วยติดตามการปฏิบัติตามมติของที่ประชุม หรือการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บริหารของหน่วยงาน เพื่อการรายงานและเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของผู้บังคับบัญชาต่อไป
(6) วิเคราะห์นโยบายของส่วนราชการ หรือนโยบาย แผนงาน และโครงการทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การบริหาร หรือความมั่นคง และเสนอข้อคิดเห็น เพื่อช่วยจัดทำแผนการปฏิบัติงาน แผนงาน โครงการ หรือกิจกรรมได้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด
3. ด้านการประสานงาน
(1) ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด
(2) ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย
4. ด้านการบริการ
ตอบปัญหา ชี้แจง และให้คำแนะนำเกี่ยวกับงานในความรับผิดชอบ ในระดับเบื้องต้นแก่หน่วยงานราชการ เอกชน หรือประชาชนทั่วไป เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบข้อมูลและเกิดความเข้าใจในงานที่รับผิดชอบ
ความรู้ที่จำเป็น(วิชาที่สอบ) : ทดสอบความรู้ความสามารถดังต่อไปนี้ โดยวิธีสอบข้อเขียน (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
- ความรู้ด้านการจัดการองค์กร
- ความรู้ด้านการวางแผนและการจัดทำงบประมาณ
- ความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
- ความรู้เกี่ยวกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- ความรู้เกี่ยวกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
สมัครงานราชการด้วยตนเองได้ที่ ศูนย์บริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล ชั้น 5 ห้อง 501 อาคารกรมโรงงานอุตสาหกรรม ถ.พระราม 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดโทร 0 2202 4012
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ ในวันที่ 3 มีนาคม 2557 ณ สถานที่รับสมัคร และทาง http://www2.diw.go.th/HRMC
สมัครได้ตั้งแต่วันที่ 9 - 29 ม.ค.57
ตำแหน่ง : นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ
อัตราเงินเดือน : 15,000 - 16,500 บาท
จำนวนตำแหน่งว่าง : 4 อัตรา
ระดับการศึกษา : ปริญญาตรี
รายละเอียดวุฒิ :
(1) ได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชารัฐศาสตร์ และ
(2) เป็นผู้สอบผ่านความรู้ความสามารถทั่วไป ระดับปริญญาตรีขึ้นไป ของ ก.พ.
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ : ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางวิชาการในการทำงาน
ปฏิบัติงานด้านการบริหารจัดการภายในสำนักงานหรือการบริหารราชการทั่วไป ภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติการ
(1) ศึกษา รวบรวมข้อมูล สถิติ สรุปรายงาน เพื่อสนับสนุนการบริหารสำนักงานในด้านต่างๆ เช่น งานบริหารทรัพยากรบุคคล งานบริหารงบประมาณ งานบริหารแผนปฏิบัติราชการ งานบริหารอาคารสถานที่ และงานสัญญาต่างๆ เป็นต้น
(2) ปฏิบัติงานเลขานุการของผู้บริหาร เช่น การกลั่นกรองเรื่อง การจัดเตรียมเอกสารสำหรับการประชุม เป็นต้น เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการวินิจฉัยสั่งการของผู้บริหาร
(3) จัดเตรียมการประชุม บันทึกและเรียบเรียงรายงานการประชุม และรายงานอื่นๆ เพื่อให้การบริหารการประชุมมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน
(4) ทำเรื่องติดต่อกับหน่วยงานและบุคคลต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนด
(5) ช่วยติดตามการปฏิบัติตามมติของที่ประชุม หรือการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บริหารของหน่วยงาน เพื่อการรายงานและเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของผู้บังคับบัญชาต่อไป
(6) วิเคราะห์นโยบายของส่วนราชการ หรือนโยบาย แผนงาน และโครงการทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การบริหาร หรือความมั่นคง และเสนอข้อคิดเห็น เพื่อช่วยจัดทำแผนการปฏิบัติงาน แผนงาน โครงการ หรือกิจกรรมได้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด
3. ด้านการประสานงาน
(1) ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด
(2) ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย
4. ด้านการบริการ
ตอบปัญหา ชี้แจง และให้คำแนะนำเกี่ยวกับงานในความรับผิดชอบ ในระดับเบื้องต้นแก่หน่วยงานราชการ เอกชน หรือประชาชนทั่วไป เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบข้อมูลและเกิดความเข้าใจในงานที่รับผิดชอบ
ความรู้ที่จำเป็น(วิชาที่สอบ) : ทดสอบความรู้ความสามารถดังต่อไปนี้ โดยวิธีสอบข้อเขียน (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
- ความรู้ด้านการจัดการองค์กร
- ความรู้ด้านการวางแผนและการจัดทำงบประมาณ
- ความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
- ความรู้เกี่ยวกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- ความรู้เกี่ยวกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
สมัครงานราชการด้วยตนเองได้ที่ ศูนย์บริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล ชั้น 5 ห้อง 501 อาคารกรมโรงงานอุตสาหกรรม ถ.พระราม 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดโทร 0 2202 4012
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ ในวันที่ 3 มีนาคม 2557 ณ สถานที่รับสมัคร และทาง http://www2.diw.go.th/HRMC
รายละเอียดเพิ่มเติม
http://job.ocsc.go.th/images/Job/635242775038411215.pdf
กรมการพัฒนาชุมชน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 150 ตำแหน่ง
กรมการพัฒนาชุมชนเปิดสอบ
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
อาคาร B ถนนแจ้งวัฒน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
ประกาศรับสมัคร : ข้าราชการ โดยวิธี : สอบแข่งขัน
ชื่อตำแหน่ง : นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิับัติการ (พัฒนากร)
อัตราเงินเดือน : 13,300 –14,630 บาท
ประเภท : วิชาการ ระดับปฏิบัติการ
จำนวนตำแหน่งว่าง : 150 ตำแหน่ง
ระดับการศึกษา : ปริญญาตรี
เปิดรับสมัคร : วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557 ถึง วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
อาคาร B ถนนแจ้งวัฒน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
ประกาศรับสมัคร : ข้าราชการ โดยวิธี : สอบแข่งขัน
ชื่อตำแหน่ง : นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิับัติการ (พัฒนากร)
อัตราเงินเดือน : 13,300 –14,630 บาท
ประเภท : วิชาการ ระดับปฏิบัติการ
จำนวนตำแหน่งว่าง : 150 ตำแหน่ง
ระดับการศึกษา : ปริญญาตรี
เปิดรับสมัคร : วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557 ถึง วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557
รายละเอียดเพิ่มเิติมที่นี่
http://job.ocsc.go.th/images/Job/635236697614587761.pdf
สูตรอาหาร สูตรยำสามกรอบ
ยำสามกรอบเป็นอาหารแนวกับแกล้ม ยอดนิยม รสชาติถึงใจ และยังมีความมันความกรอบ บางท่านอาจจะใส่มากกว่าสามกรอบก็แล้วแต่จะชอบจะมีเครื่องปรุงกัน
ส่วนประกอบของยำสามกรอบ
• กระเพาะปลาแห้ง 50 กรัม
• เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 50 กรัม
• ปลาหมึกแห้งแบบวง 50 กรัม
• มะม่วงเปรี้ยวดิบ 1 ลูกเล็ก
• พริกขี้หนู 10 เม็ด
• หัวหอมแดง 5 หัว
• ต้นหอม 1 ต้น
• หอมหัวใหญ่ 1/2 หัว
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลาดี 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช 1 ถ้วย
วิธีทำยำสามกรอบ
- ผสมน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล พริกขี้หนู รากผักชี กระเทียม หอมใหญ่ และมะเขือเทศ คนให้เข้ากัน
- ใส่กระเพาะปลา เม็ดมะม่วงหิมพานต์และปลาหมึกวง จากนั้นใส่ต้นหอมและขึ้นฉ่าย คลุกเร็วๆพอเข้ากัน ตักใส่จาน เสิร์ฟทันที
สูตรปลาราดพริก แซบๆง่ายๆลองมาดูกันจ้า
ทำปลาทอด:
- บั้งข้างตัวปลาทั้งสองข้าง เพื่อให้เวลาทอดเนื้อปลาสุกได้ง่ายและสุกทั่วทั้งตัว
- ใส่น้ำมัน (ประมาณ 1/2 ถ้วยตวงหรือพอท่วมตัวปลา) ในกระทะและนำไปตั้งไฟอ่อน ทอดปลาให้สุกทีละข้าง (หนึ่งข้างใช้เวลาประมาณ 10 นาที) ระหว่างทอดอย่ากลับหน้าปลาจนกว่าข้างหนึ่งข้างใดจะสุก เพราะจะทำให้เนื้อปลาเละไม่น่าทาน
- อุณหภูมิของน้ำมันที่เหมาะสมในการทอดอาหารจะอยู่ที่ประมาณ 325-375 อาศาฟาห์เรนไฮต์ แต่ถ้าไม่มีหม้อทอดไฟฟ้าอาจเช็คว่าน้ำมันร้อนได้ที่หรือยัง โดยใช้ตะเกียบไม้จุ่มลงในน้ำมัน ถ้ามีฟองปุดๆ รอบตะเกียบแสดงว่าน้ำมันร้อนได้ที่แล้ว
- เมื่อข้างหนึ่งสุกจึงกลับหน้าไปอีกข้าง โดยเวลาในการทอดอีกข้างให้สุกจะไม่นานเท่าข้างแรก (ใช้เวลาประมาณ 5 นาที) เมื่อปลาสุกดีแล้วให้นำออกมาวางบนกระดาษซับมัน แล้วจึงนำไปจัดใส่จานไว้
เครื่องปรุงซอส
- พริกชี้ฟ้า 3 เม็ด
- กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมหัวใหญ่ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำต้มสุก 1/4 ถ้วย
วิธีปรุงซอสราด
- โขลกพริกชี้ฟ้าแดงกับกระเทียมให้ละเอียด หัวใหญ่สับให้ละเอียดวิธีทำอาหาร - ปลาราดพริกสามรส (Fried Fish with Chili Sauce)
- ตักใส่กระทะผัดกับน้ำมัน ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำต้มสุก ชิมรสชาติเปรี้ยว เค็ม ตามด้วยรสหวานวิธีทำอาหาร - ปลาราดพริกสามรส (Fried Fish with Chili Sauce)
- เคี่ยวจนซอสข้น แล้วนำซอสไปราดบนตัวปลาที่ทอดแล้ว แต่ง หน้าด้วยผักชีและ พริกชี้ฟ้าแดง
ปลูกผักชีฝรั่งเพิ่มรายได้ดีที่นครสวรรค์
ผักชีฝรั่ง หรือที่ชาวบ้านบางรายเรียกกันว่า ผักชีใบยาวบ้าง ผักชีหนามบ้าง เป็นพืชอายุสั้น ใช้เวลาปลูกประมาณ 4 เดือน เก็บผลผลิตขายได้แล้ว เกษตรกรหลายรายต่างก็ยืนยันว่ามีรายได้มากกว่าการปลูกพืชหลายชนิดแม้จะต้องลงทุนมากในช่วงการเริ่มต้นครั้งแรก แต่หลังจากเวลาผ่านไปสามารถคืนทุนได้
ตำบลบางม่วง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เป็นอีกแห่งที่ชาวบ้านปลูกผักชีฝรั่งมีรายได้ เกษตรกรอย่าง คุณสมพร กลิ่นนิ่มนวล อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ที่ 2 ตำบลบางม่วง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ โทรศัพท์ (089) 639-9189 เป็นอีกคนที่ทำอาชีพนี้เช่นกัน และทำมาหลายปีแล้ว
ซื้อเมล็ดพันธุ์เพียงครั้งแรก
ครั้งต่อไปจะเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้
คุณสมพร ปลูกผักชีฝรั่งแบบไม่เน้นเป็นอาชีพหลัก เพราะเธอปลูกพืชอายุสั้นอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย จึงทำอยู่ 1 ไร่ เป็นผักชีฝรั่งพันธุ์เชียงใหม่ ใช้เมล็ดพันธุ์ น้ำหนัก 2 กิโลกรัม และตอนที่ซื้อเมล็ดพันธุ์ครั้งแรกมีราคาประมาณ 2,000 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม
เกษตรกรรายนี้เปิดเผยเรื่องเมล็ดพันธุ์ว่าจะซื้อมาปลูกเพียงครั้งแรกเท่านั้น และครั้งต่อไปจะเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกในรุ่นต่อๆ ไป โดยเลือกเก็บต้นที่ให้ดอกสมบูรณ์ๆ เลือกดูต้นที่ใหญ่ ถ้าติดดอกเก็บเอาดอกของต้นนั้นไว้ทำพันธุ์ เหตุผลที่ทำเช่นนี้เพราะถือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย และจะได้ต้นใหม่ที่สมบูรณ์
รูปแบบการปลูกผักชีฝรั่งนั้นจะต้องทำโรงเรือนมุงซาแรนรอบด้าน ให้แสงสว่างส่องเข้าไปภายในโรงเรือนได้ประมาณ 60% ถ้าแสงผ่านเข้าไปน้อยกว่านั้น ประมาณ 70% ขึ้นไป ก็จะทำให้เกิดความชื้นในโรงเรือนมาก เป็นเหตุให้เกิดเชื้อรา ส่งผลให้ผักชีฝรั่งเป็นโรครากโคนเน่าง่าย แต่หากแสงผ่านเข้าโรงเรือนมากราว 50% ขึ้นไป ก็จะทำให้ผักชีฝรั่งไม่เติบโต ฉะนั้นเรื่องแสงสว่างในโรงเรือนจึงมีผลต่อการปลูกผักชีฝรั่งมาก ส่วนขนาดโรงเรือนควรสูงประมาณ 1.70-2.00 เมตร และความกว้าง ยาว อาจต้องดูตามความเหมาะสมของแต่ละแห่ง
การปลูกผักชีฝรั่งต้องปลูกระบบร่องน้ำจึงจะได้ผลดี หน้าร่องปลูกควรกว้างประมาณ 6 เมตร หรือ 3 วา ความยาวแล้วแต่พื้นที่ และร่องน้ำกว้างประมาณ 1 เมตร ลึก 1 เมตร ระดับน้ำจะต้องสามารถสูบน้ำเข้า-ออก ให้ลดระดับน้ำสูงต่ำในร่องน้ำได้
“ลงทุนซื้อเมล็ดพันธุ์มาครั้งแรก พอเก็บได้รุ่นแรกให้เก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้ในรุ่นต่อไปโดยไม่ต้องลงทุนซื้อเมล็ดพันธุ์ใหม่ แต่สิ่งที่ต้องลงทุนคือการสร้างร้านปลูกปักเสาแล้วคลุมซาแรนเพื่อบังแดด ต้องใช้เงินลงทุนซื้อวัสดุมาทำครั้งละเป็นหมื่นบาท ต่างกับสมัยก่อนใช้ก้านมะพร้าวบังแดด”
การปลูกให้ได้คุณภาพ
ต้องปรับ น้ำ แดด ให้พอเหมาะ
คุณสมพรอธิบายขั้นตอนการปลูกว่า ก่อนอื่นต้องปรับดินให้มีความเสมอแล้วต้องรดน้ำให้ดินชุ่มมาก ทิ้งไว้สักพักแล้วจึงหว่านเมล็ด ให้ฉีดยาป้องกันแมลงและป้องกันเชื้อรา คอยหมั่นถอนหญ้าและวัชพืช หมั่นรดน้ำอย่าให้ขาด โดยการใช้สายยางปล่อยน้ำอ่อนๆ เพื่อรักษาความชื้นของดิน ระหว่างนั้นอาจมีการใส่ปุ๋ยยูเรียบ้างเป็นครั้งคราว หรือเป็นปุ๋ย สูตร 25-7-7 ให้ใส่หลังหว่านไปแล้วสัก 1 เดือน
“การเตรียมดิน หากเป็นแปลงปลูกใหม่ๆ ดินยังมีสภาพดี ตากดินให้แห้งเสียก่อน จากนั้นก็ตีดินด้วยรถตีดินให้ร่วนซุย เมื่อพร้อมปลูกก็หว่านเมล็ดบางๆ ลงหน้าร่อง อัตราส่วนเมล็ดพันธุ์พื้นที่ 1 ไร่ ต่อเมล็ดพันธุ์ 2-3 กิโลกรัม หลังจากหว่านเมล็ด ประมาณ 10-15 วัน เมล็ดจะงอกเป็นต้นกล้าขึ้นมา
พอต้นกล้างอกให้น้ำพอประมาณ ทิ้งระยะให้น้ำแต่ละครั้งควรห่างสัก 3-7 วัน จนกระทั่งต้นผักชีฝรั่งอายุ 1 เดือน คราวนี้หยุดให้น้ำ ปล่อยทิ้งไว้ให้ดินแห้งสักระยะหนึ่ง สังเกตดินแห้งแตกระแหงพอสมควร และต้นผักชีฝรั่งค่อนข้างเหี่ยวเฉาแล้วจึงให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกหว่านให้ทั่วแปลง จากนั้นรดน้ำให้ชุ่มเพื่อให้รากดูดซึมน้ำและปุ๋ยขึ้นไปเลี้ยงลำต้นได้มากๆ”
คุณสมพรบอกต่อว่า หลังจากรดน้ำวันแรก วันที่ 2 ให้พักการรดน้ำจะไปรดน้ำอีกครั้งในวันที่ 3 หลังจากนั้นก็ให้น้ำเช้า-เย็นตามปกติ การใส่ปุ๋ยผักชีฝรั่งให้ปุ๋ยอีก 2 ครั้ง คือในช่วงเดือนที่ 2 และเดือนที่ 3 พอถึงเดือนที่ 4 ก็เริ่มถอนต้นที่มีขนาดใหญ่ใบอวบสวยตามตลาดต้องการขายได้
เก็บผลผลิตได้หลายรุ่น
ต่อการปลูก 1 ครั้ง
การปลูกผักชีฝรั่งของคุณสมพรถือว่าได้เปรียบในเรื่องแหล่งน้ำ เพราะแปลงปลูกของคุณสมพรอยู่ใกล้แม่น้ำปิง จึงเป็นโอกาสดีที่สามารถดึงน้ำจากแหล่งใหญ่ตามธรรมชาติมาใช้อย่างง่ายดาย
การเก็บเกี่ยว ผักชีฝรั่งจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 120 วัน ก่อนถอนควรรดน้ำบนแปลงให้ดินชุ่มชื้นเสียก่อน เพื่อสะดวกในการถอน การเก็บจะถอนทั้งต้นมีรากติด หรือตัดทีละต้น นำไปล้างดินออก ตกแต่งโดยเด็ดใบเหลืองใบเสียทิ้ง นำไปผึ่งลมแล้วบรรจุลงในตะกร้า
“หลังจากถอนต้นผักชีฝรั่งชุดแรกแล้ว ให้หว่านปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยสูตร 25-7-7 เพื่อบำรุงต้นเล็กที่ยังไม่ได้ขนาดเก็บให้เจริญเติบโต ควรรดน้ำเช้า-เย็น ทิ้งห่างจากเก็บครั้งแรกประมาณ 25 วัน จึงเก็บครั้งที่ 2 โดยการเลือกถอนต้นที่ใหญ่ได้ขนาดออกมา จากนั้นก็หว่านปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 หรือ 16-16-16 ให้ทั่วแปลง รดน้ำให้ชุ่ม ทิ้งห่างไปอีก 25 วัน จึงเก็บครั้งที่ 3 หลังถอนต้นต้องใส่ปุ๋ยทุกครั้ง ผักชีฝรั่งสามารถถอนได้ 4-5 ครั้ง จึงจะหมดแปลง”
ลำต้นผักชีฝรั่งจะเจริญเติบโตไม่เสมอกัน เกษตรกรจะไล่ถอนต้นที่มีใบขนาดใหญ่ออกก่อน ส่วนใบที่เหลือและยังมีขนาดเล็กเกินไปจะรดน้ำดูแลต่อไปเพื่อให้ได้ใบใหญ่ตามขนาดจึงถอนขาย พอถอนเสร็จก็เก็บต้นผักชีฝรั่งมาทำความสะอาด กำให้เรียบร้อย ใส่ถุงขาย น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ราคา 60 บาท เป็นราคาซื้อ-ขายปกติ คุณสมพรเล่าว่า ตอนช่วงหลังน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา ราคาสูง 150-180 บาท ต่อกิโลกรัม อีกทั้งยังเคยราคาตกต่ำถึง กิโลกรัมละ 20 บาท ราคานี้มักเกิดในช่วงก่อนปีใหม่ เพราะช่วงนั้นชาวบ้านปลูกกันมากและผักชีฝรั่งโตพร้อมกัน พอเก็บขายพร้อมกันราคาเลยตก
เกษตรกรรายเดิมให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อว่า ระยะเวลาที่เริ่มจากการหว่านเมล็ดไปจนกระทั่งเก็บผลผลิตใช้เวลารวมเกือบ 3 เดือน แต่ถ้าดูแลเต็มที่ อัดทั้งปุ๋ยและน้ำ ดูแลสภาพแวดล้อมภายในแปลงปลูกให้มีระเบียบ สะอาด ปราศจากวัชพืชอาจได้เร็วกว่ามาก นอกจากนั้น การหว่านเมล็ดให้หนา อาจเก็บได้อีก 2-3 ครั้ง ภายหลังเก็บรุ่นแรกผ่านไปแล้ว ซึ่งแต่ละครั้งที่เก็บใช้เวลาห่างกันประมาณ 2 เดือน
คุณสมพรจะปลูกผักชีฝรั่งปีละ 2 ครั้ง คุณสมพรบอกว่า แต่ละครั้งเก็บได้ถึง 3 รุ่น แต่ละรุ่นห่างกัน 2 เดือน ซึ่งหลังจากเก็บครบแล้ว จะจัดการไถพรวนดินเพื่อเตรียมแปลงปลูกในครั้งต่อไป
เชื้อราถือเป็นศัตรูของผักชีฝรั่งอีกชนิดหนึ่งที่มักเกิดขึ้นได้เสมอ สาเหตุเพราะผักชีฝรั่งปลูกในโรงเรือนที่มีความชื้นสูง เกษตรกรควรใช้เชื้อไตรโคเดอร์ม่าดีกว่า ได้ผลกว่า ซึ่งวิธีใช้ไตรโคเดอร์ม่าให้ผสมน้ำราดทั่วทั้งแปลงก่อนหว่านเมล็ด แล้วหลังจากนั้นฉีดทุกๆ 4 เดือน จะช่วยป้องกันได้ แต่ถ้าเป็นหน้าฝนมักเกิดโรครากโคนเน่าง่าย หากพบว่าเกิดโรครีบใช้สารกำจัดเชื้อรา หรือใช้ไตรโคเดอร์ม่าผสมน้ำฉีดบริเวณที่เกิดเชื้อราทันที อย่าปล่อยให้ลุกลามมากยิ่งขึ้นจะยากต่อการควบคุม
ตำบลบางม่วง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เป็นอีกแห่งที่ชาวบ้านปลูกผักชีฝรั่งมีรายได้ เกษตรกรอย่าง คุณสมพร กลิ่นนิ่มนวล อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ที่ 2 ตำบลบางม่วง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ โทรศัพท์ (089) 639-9189 เป็นอีกคนที่ทำอาชีพนี้เช่นกัน และทำมาหลายปีแล้ว
ซื้อเมล็ดพันธุ์เพียงครั้งแรก
ครั้งต่อไปจะเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้
คุณสมพร ปลูกผักชีฝรั่งแบบไม่เน้นเป็นอาชีพหลัก เพราะเธอปลูกพืชอายุสั้นอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย จึงทำอยู่ 1 ไร่ เป็นผักชีฝรั่งพันธุ์เชียงใหม่ ใช้เมล็ดพันธุ์ น้ำหนัก 2 กิโลกรัม และตอนที่ซื้อเมล็ดพันธุ์ครั้งแรกมีราคาประมาณ 2,000 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม
เกษตรกรรายนี้เปิดเผยเรื่องเมล็ดพันธุ์ว่าจะซื้อมาปลูกเพียงครั้งแรกเท่านั้น และครั้งต่อไปจะเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกในรุ่นต่อๆ ไป โดยเลือกเก็บต้นที่ให้ดอกสมบูรณ์ๆ เลือกดูต้นที่ใหญ่ ถ้าติดดอกเก็บเอาดอกของต้นนั้นไว้ทำพันธุ์ เหตุผลที่ทำเช่นนี้เพราะถือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย และจะได้ต้นใหม่ที่สมบูรณ์
รูปแบบการปลูกผักชีฝรั่งนั้นจะต้องทำโรงเรือนมุงซาแรนรอบด้าน ให้แสงสว่างส่องเข้าไปภายในโรงเรือนได้ประมาณ 60% ถ้าแสงผ่านเข้าไปน้อยกว่านั้น ประมาณ 70% ขึ้นไป ก็จะทำให้เกิดความชื้นในโรงเรือนมาก เป็นเหตุให้เกิดเชื้อรา ส่งผลให้ผักชีฝรั่งเป็นโรครากโคนเน่าง่าย แต่หากแสงผ่านเข้าโรงเรือนมากราว 50% ขึ้นไป ก็จะทำให้ผักชีฝรั่งไม่เติบโต ฉะนั้นเรื่องแสงสว่างในโรงเรือนจึงมีผลต่อการปลูกผักชีฝรั่งมาก ส่วนขนาดโรงเรือนควรสูงประมาณ 1.70-2.00 เมตร และความกว้าง ยาว อาจต้องดูตามความเหมาะสมของแต่ละแห่ง
การปลูกผักชีฝรั่งต้องปลูกระบบร่องน้ำจึงจะได้ผลดี หน้าร่องปลูกควรกว้างประมาณ 6 เมตร หรือ 3 วา ความยาวแล้วแต่พื้นที่ และร่องน้ำกว้างประมาณ 1 เมตร ลึก 1 เมตร ระดับน้ำจะต้องสามารถสูบน้ำเข้า-ออก ให้ลดระดับน้ำสูงต่ำในร่องน้ำได้
“ลงทุนซื้อเมล็ดพันธุ์มาครั้งแรก พอเก็บได้รุ่นแรกให้เก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้ในรุ่นต่อไปโดยไม่ต้องลงทุนซื้อเมล็ดพันธุ์ใหม่ แต่สิ่งที่ต้องลงทุนคือการสร้างร้านปลูกปักเสาแล้วคลุมซาแรนเพื่อบังแดด ต้องใช้เงินลงทุนซื้อวัสดุมาทำครั้งละเป็นหมื่นบาท ต่างกับสมัยก่อนใช้ก้านมะพร้าวบังแดด”
การปลูกให้ได้คุณภาพ
ต้องปรับ น้ำ แดด ให้พอเหมาะ
คุณสมพรอธิบายขั้นตอนการปลูกว่า ก่อนอื่นต้องปรับดินให้มีความเสมอแล้วต้องรดน้ำให้ดินชุ่มมาก ทิ้งไว้สักพักแล้วจึงหว่านเมล็ด ให้ฉีดยาป้องกันแมลงและป้องกันเชื้อรา คอยหมั่นถอนหญ้าและวัชพืช หมั่นรดน้ำอย่าให้ขาด โดยการใช้สายยางปล่อยน้ำอ่อนๆ เพื่อรักษาความชื้นของดิน ระหว่างนั้นอาจมีการใส่ปุ๋ยยูเรียบ้างเป็นครั้งคราว หรือเป็นปุ๋ย สูตร 25-7-7 ให้ใส่หลังหว่านไปแล้วสัก 1 เดือน
“การเตรียมดิน หากเป็นแปลงปลูกใหม่ๆ ดินยังมีสภาพดี ตากดินให้แห้งเสียก่อน จากนั้นก็ตีดินด้วยรถตีดินให้ร่วนซุย เมื่อพร้อมปลูกก็หว่านเมล็ดบางๆ ลงหน้าร่อง อัตราส่วนเมล็ดพันธุ์พื้นที่ 1 ไร่ ต่อเมล็ดพันธุ์ 2-3 กิโลกรัม หลังจากหว่านเมล็ด ประมาณ 10-15 วัน เมล็ดจะงอกเป็นต้นกล้าขึ้นมา
พอต้นกล้างอกให้น้ำพอประมาณ ทิ้งระยะให้น้ำแต่ละครั้งควรห่างสัก 3-7 วัน จนกระทั่งต้นผักชีฝรั่งอายุ 1 เดือน คราวนี้หยุดให้น้ำ ปล่อยทิ้งไว้ให้ดินแห้งสักระยะหนึ่ง สังเกตดินแห้งแตกระแหงพอสมควร และต้นผักชีฝรั่งค่อนข้างเหี่ยวเฉาแล้วจึงให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกหว่านให้ทั่วแปลง จากนั้นรดน้ำให้ชุ่มเพื่อให้รากดูดซึมน้ำและปุ๋ยขึ้นไปเลี้ยงลำต้นได้มากๆ”
คุณสมพรบอกต่อว่า หลังจากรดน้ำวันแรก วันที่ 2 ให้พักการรดน้ำจะไปรดน้ำอีกครั้งในวันที่ 3 หลังจากนั้นก็ให้น้ำเช้า-เย็นตามปกติ การใส่ปุ๋ยผักชีฝรั่งให้ปุ๋ยอีก 2 ครั้ง คือในช่วงเดือนที่ 2 และเดือนที่ 3 พอถึงเดือนที่ 4 ก็เริ่มถอนต้นที่มีขนาดใหญ่ใบอวบสวยตามตลาดต้องการขายได้
เก็บผลผลิตได้หลายรุ่น
ต่อการปลูก 1 ครั้ง
การปลูกผักชีฝรั่งของคุณสมพรถือว่าได้เปรียบในเรื่องแหล่งน้ำ เพราะแปลงปลูกของคุณสมพรอยู่ใกล้แม่น้ำปิง จึงเป็นโอกาสดีที่สามารถดึงน้ำจากแหล่งใหญ่ตามธรรมชาติมาใช้อย่างง่ายดาย
การเก็บเกี่ยว ผักชีฝรั่งจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 120 วัน ก่อนถอนควรรดน้ำบนแปลงให้ดินชุ่มชื้นเสียก่อน เพื่อสะดวกในการถอน การเก็บจะถอนทั้งต้นมีรากติด หรือตัดทีละต้น นำไปล้างดินออก ตกแต่งโดยเด็ดใบเหลืองใบเสียทิ้ง นำไปผึ่งลมแล้วบรรจุลงในตะกร้า
“หลังจากถอนต้นผักชีฝรั่งชุดแรกแล้ว ให้หว่านปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยสูตร 25-7-7 เพื่อบำรุงต้นเล็กที่ยังไม่ได้ขนาดเก็บให้เจริญเติบโต ควรรดน้ำเช้า-เย็น ทิ้งห่างจากเก็บครั้งแรกประมาณ 25 วัน จึงเก็บครั้งที่ 2 โดยการเลือกถอนต้นที่ใหญ่ได้ขนาดออกมา จากนั้นก็หว่านปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 หรือ 16-16-16 ให้ทั่วแปลง รดน้ำให้ชุ่ม ทิ้งห่างไปอีก 25 วัน จึงเก็บครั้งที่ 3 หลังถอนต้นต้องใส่ปุ๋ยทุกครั้ง ผักชีฝรั่งสามารถถอนได้ 4-5 ครั้ง จึงจะหมดแปลง”
ลำต้นผักชีฝรั่งจะเจริญเติบโตไม่เสมอกัน เกษตรกรจะไล่ถอนต้นที่มีใบขนาดใหญ่ออกก่อน ส่วนใบที่เหลือและยังมีขนาดเล็กเกินไปจะรดน้ำดูแลต่อไปเพื่อให้ได้ใบใหญ่ตามขนาดจึงถอนขาย พอถอนเสร็จก็เก็บต้นผักชีฝรั่งมาทำความสะอาด กำให้เรียบร้อย ใส่ถุงขาย น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ราคา 60 บาท เป็นราคาซื้อ-ขายปกติ คุณสมพรเล่าว่า ตอนช่วงหลังน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา ราคาสูง 150-180 บาท ต่อกิโลกรัม อีกทั้งยังเคยราคาตกต่ำถึง กิโลกรัมละ 20 บาท ราคานี้มักเกิดในช่วงก่อนปีใหม่ เพราะช่วงนั้นชาวบ้านปลูกกันมากและผักชีฝรั่งโตพร้อมกัน พอเก็บขายพร้อมกันราคาเลยตก
เกษตรกรรายเดิมให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อว่า ระยะเวลาที่เริ่มจากการหว่านเมล็ดไปจนกระทั่งเก็บผลผลิตใช้เวลารวมเกือบ 3 เดือน แต่ถ้าดูแลเต็มที่ อัดทั้งปุ๋ยและน้ำ ดูแลสภาพแวดล้อมภายในแปลงปลูกให้มีระเบียบ สะอาด ปราศจากวัชพืชอาจได้เร็วกว่ามาก นอกจากนั้น การหว่านเมล็ดให้หนา อาจเก็บได้อีก 2-3 ครั้ง ภายหลังเก็บรุ่นแรกผ่านไปแล้ว ซึ่งแต่ละครั้งที่เก็บใช้เวลาห่างกันประมาณ 2 เดือน
คุณสมพรจะปลูกผักชีฝรั่งปีละ 2 ครั้ง คุณสมพรบอกว่า แต่ละครั้งเก็บได้ถึง 3 รุ่น แต่ละรุ่นห่างกัน 2 เดือน ซึ่งหลังจากเก็บครบแล้ว จะจัดการไถพรวนดินเพื่อเตรียมแปลงปลูกในครั้งต่อไป
เชื้อราถือเป็นศัตรูของผักชีฝรั่งอีกชนิดหนึ่งที่มักเกิดขึ้นได้เสมอ สาเหตุเพราะผักชีฝรั่งปลูกในโรงเรือนที่มีความชื้นสูง เกษตรกรควรใช้เชื้อไตรโคเดอร์ม่าดีกว่า ได้ผลกว่า ซึ่งวิธีใช้ไตรโคเดอร์ม่าให้ผสมน้ำราดทั่วทั้งแปลงก่อนหว่านเมล็ด แล้วหลังจากนั้นฉีดทุกๆ 4 เดือน จะช่วยป้องกันได้ แต่ถ้าเป็นหน้าฝนมักเกิดโรครากโคนเน่าง่าย หากพบว่าเกิดโรครีบใช้สารกำจัดเชื้อรา หรือใช้ไตรโคเดอร์ม่าผสมน้ำฉีดบริเวณที่เกิดเชื้อราทันที อย่าปล่อยให้ลุกลามมากยิ่งขึ้นจะยากต่อการควบคุม
กองทัพอากาศ รับสมัครและสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการ 498 อัตรา 15 มกราคม - 5 มีนาคม 2557
กองทัพอากาศ รับสมัครและสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการในกองทัพอากาศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ส่วนกลาง (กทม.) และกองการบินหรือโรงเรียนการบินต่างจังหวัด จำนวน 498 อัตรา รับสมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม - 5 มีนาคม 2557
๑. ตำแหน่งและหรือสายงานที่เปิดรับสมัครสอบ
ชื่อตำแหน่งและหรือสายงานที่เปิดรับสมัครสอบ
|
จำนวน
|
มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง
|
หมายเหตุ
|
๑. บรรจุเป็นข้าราชการชั้นสัญญาบัตร (ยศเป็นว่าที่เรืออากาศตรี)
๒. บรรจุเป็นข้าราชการต่ำกว่าสัญญาบัตร (ยศเป็นจ่าอากาศตรี)
๓. บรรจุเป็นข้าราชการต่ำกว่าสัญญาบัตร (ยศจ่าอากาศตรี) (กองบินต่างจังหวัด)
|
๖๒ อัตรา
๓๙๑ อัตรา
๑๔๕ อัตรา
|
-
|
๒. การรับสมัครสอบแข่งขัน
วิธีการรับสมัคร วัน เวลา รับสมัครสอบ
|
วัน เวลา รับสมัครสอบ
|
กองทัพอากาศ เปิดรับสมัครทางอินเทอร์เน็ตทางเดียวเท่านั้น ที่เว็บไซต์ http://job.rtaf.mi.th/
|
ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มกราคม – ๕ มีนาคม ๒๕๕๗ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ
|
๓. รายละเอียดเพิ่มเติม คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ เงื่อนไขการรับสมัครสอบ หลักฐานที่ใช้ในการสมัครสอบ อัตราเงินเดือนที่จะได้รับ คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง หลักสูตรและวิธีการสอบ/สรรหา เกณฑ์การตัดสิน การบรรจุแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้
รายละเอียด
|
ลิงค์ประกาศ
|
ลิงค์เอกสารแนบ/ภาคผนวก
|
ประกาศคณะกรรมการอำนวยการคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการในกองทัพอากาศ เรื่อง การรับสมัครและสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการในกองทัพอากาศ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ส่วนกลาง (กทม.)
ประกาศคณะกรรมการอำนวยการคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการในกองทัพอากาศ เรื่อง การรับสมัครและสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการในกองทัพอากาศ (เฉพาะบุคลที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่จังหวัดที่ตั้งกองบินต่างจังหวัดหรือโรงเรียนการบินหรือจังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดของกองบินต่างจังหวัดหรือโรงเรียนการบิน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗)
|
|
|
วิธีทำข้าวหมกไก่อย่างละเอียด ในหม้อหุงข้าว
รูปจากคุณ Smild Smart
เครื่องปรุง
- สะโพกไก่ 7-8 ชิ้น
- ข้าวสาร 3 กระป๋อง
- หอมหัวแดง 4 หัว
- เนยเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ
- นมข้นจืดหรือ Half & Half ¼ ถ้วย
- น้ำเปล่า 2 ½ ถ้วย
- น้ำมันพืช ¼ ถ้วย
เครื่องปรุงผงข้าวหมกไก่
- ผงกะหรี่ 2 ช้อนชา
- ผงขมิ้น 1 ช้อนชา
- ลูกผักชีป่น 1 ช้อนชา
- ยี่หร่าป่น ½ ช้อนชา
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- อบเชยป่น 1 ช้อนชา
- ใบกระวาน 2 ใบ
เครื่องปรุงน้ำจิ้มข้าวหมกไก่
- ต้นหอม 2 ต้น
- ผักชี 3 ต้น
- ขิงแก่ ¼ ถ้วย
- พริกชี้ฟ้า 1 เม็ด
- น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย
- น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ล้างไก่ให้สะอาด นำส้อมมาจิ้มชิ้นไก่ให้ทั่ว
2. นำเครื่องปรุงผงข้าวหมกไก่ทั้งหมดมาใส่รวมกันในชามผสมแล้วแบ่งเป็น 2 ส่วน นำส่วนหนึ่งไปหมักกับชิ้นไก่และเติม Half & Half ลงไป
3. คลุกเคล้าให้เครื่องทั้งหมดเข้ากับชิ้นไก่ให้ทั่ว หมักไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมงหรือค้างคืนในตู้เย็น
4. นำหอมหัวแดงมาปลอกเปลือก ล้างฝุ่นผงออกแล้วนำมาซอยบางๆ จากนั้น แบ่งเป็น 2 ส่วน
5. ตั้งกระทะที่ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันลงไป รอจนน้ำมันร้อน ใส่หอมหัวแดงซอยส่วนแรกลงไปเจียวจนเหลืองกรอบ ตักขึ้น พักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน
6. เมื่อหมักไก่ได้ที่แล้วตั้งกระทะอีกครั้งหนึ่ง ใส่เนยและน้ำมันที่เจียวหอมประมาณ 1 ช้อนโต๊ะลงไป รอจนเนยละลายจึงนำหอมหัวแดงส่วนที่สองลงไป
7. ผัดหอมหัวแดงจนเริ่มสุก ใส่ชิ้นไก่ที่หมักไว้ลงไปทอดจนชิ้นไก่สุกปานกลางทั้งสองด้าน ตักขึ้น พักทิ้งไว้ให้เย็น
8. นำผงข้าวหมกไก่ส่วนที่สองลงไปผัดกับเครื่องที่เหลือในกระทะให้หอม ใส่ข้าวสารที่ซาวแล้วลงไปผัดให้ทั่ว
9. ตักข้าวที่ผัดไว้ใส่ลงในหม้อหุงข้าว เติมน้ำเปล่าลงไป และนำชิ้นไก่ที่ทอดไว้ใส่ลงไป จากนั้นนำไปหุงในหม้อหุงข้าวตามปกติจนสุก
วิธีทำน้ำจิ้มข้าวหมกไก่
1. นำน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำเปล่าใส่ลงในหม้อ นำไปตั้งไฟปานกลาง คนเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลาย ปิดเตา ยกลง จากนั้น ใส่น้ำส้มสายชูลงไป คนให้เข้ากัน
2. ตัดรากต้นหอม ผักชี ปลอกเปลือกขิง และตัดขั้วพริกชี้ฟ้า ล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำแล้วนำทุกอย่างมาซอยหยาบๆ จากนั้นนำเครื่องที่ซอยไว้ใส่ลงในเครื่องปั่น
3. ปั่นเครื่องทั้งหมดให้ละเอียด จากนั้นนำไปใส่ลงในน้ำเชื่อมที่ปรุงไว้ คนให้เข้ากันแล้วใส่ถ้วยเตรียมไว้เป็นน้ำจิ้ม
วิธีเสิร์ฟ
ตักข้าวหมกไก่ใส่จาน โรยด้วยหอมเจียว วางแตงกวาที่หั่นไว้ข้างๆ จากนั้นก็เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มที่เตรียมไว้ได้เลยค่ะ
ขอบคุณข้อมูล ข้าวหมกไก่ : วิธีทำข้าวหมกไก่ ในหม้อหุงข้าว - ucancookthai.com
การปลูกผักหวานโดยตอนกิ่ง และ การล้อมต้นตามธรรมชาติมาปลูก
2.การปลูกโดยการตอนกิ่ง
ผักหวานเป็นพืชที่มีระบบรากไม่เหมือนพืชใบเลี้ยงคู่อื่น ระบบรากที่เกิดจากการตอนกิ่งตามประสบการณ์ของน้าแกเล่าว่าเคยตอนและทดลองปลูก รวมทั้งซื้อจากที่อื่นมาปลูกหลังจากปลูกไปแล้วเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปีก็ตายลงจนหมด น้าแกบอกว่าที่ไร่แกตอนนี้วิธีการนี้ไม่ใช้ครับ สำหรับท่านอื่นที่มีประสบการณ์ดีๆ ในการปลูกผักหวานด้วยกิ่งตอนที่เรายังไม่ทราบก็แลกเปลี่ยนความรู้กันได้น่ะครับ
3.การล้อมต้นตามธรรมชาติมาปลูก
วิธีการนี้ได้รับการถ่ายทอดจากผู้มากประสบการณ์(พ่อตาป๋านัดจอมโหด)ผู้เป็นเจ้าของผักหวานต้นโตๆ ที่อยู่ข้างหลังผมทั้งหมดนั่นล่ะ แกเล่าว่าแกไปล้อมผักหวานมาจากป่าธรรมชาติ โดยพยายามให้รากขาดและบอบช้ำน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนทำการล้อมมาต้องดูด้วยว่าทิศทางของรากผักหวานวางอยู่ในแนวไหน ชี้ไปทิศทางใด เพราะเวลาเอาไปลงปลูกใหม่ทิศทางต้องเป็นไปตามทิศทางเดิมตามธรรมชาติ ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยเคมีห้ามใช้รองก้นหลุมต้นผักหวานที่ล้อมมา เพราะความบอบช้ำจากบาดแผลเมื่อเจอความเค็มจากปุ๋ยคอกหรือเคมีอาจทำให้ผักหวานตายลงได้ การปลูกแล้วประสบความสำเร็จต้องใช้ระยะเวลาเป็นตัวชี้วัด หากผักหวานที่ล้อมมาปลูกสามารถเจริญเติบโตอยู่ได้เกินระยะเวลา 2 ปีถือว่าปลอดภัย บำรุงด้วยปุ๋ยคอกได้เลยครับ การใส่ปุ๋ยคอกให้ลึกจากพื้นประมาณ 10 เซ็นติเมตรเอาปุ๋ยคอกใส่ลงไปแล้วเอาดินที่ขุดออกกลบหน้าซ้ำเป็นอันจบครับ
ผักหวานเป็นพืชที่มีระบบรากไม่เหมือนพืชใบเลี้ยงคู่อื่น ระบบรากที่เกิดจากการตอนกิ่งตามประสบการณ์ของน้าแกเล่าว่าเคยตอนและทดลองปลูก รวมทั้งซื้อจากที่อื่นมาปลูกหลังจากปลูกไปแล้วเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปีก็ตายลงจนหมด น้าแกบอกว่าที่ไร่แกตอนนี้วิธีการนี้ไม่ใช้ครับ สำหรับท่านอื่นที่มีประสบการณ์ดีๆ ในการปลูกผักหวานด้วยกิ่งตอนที่เรายังไม่ทราบก็แลกเปลี่ยนความรู้กันได้น่ะครับ
3.การล้อมต้นตามธรรมชาติมาปลูก
วิธีการนี้ได้รับการถ่ายทอดจากผู้มากประสบการณ์(พ่อตาป๋านัดจอมโหด)ผู้เป็นเจ้าของผักหวานต้นโตๆ ที่อยู่ข้างหลังผมทั้งหมดนั่นล่ะ แกเล่าว่าแกไปล้อมผักหวานมาจากป่าธรรมชาติ โดยพยายามให้รากขาดและบอบช้ำน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนทำการล้อมมาต้องดูด้วยว่าทิศทางของรากผักหวานวางอยู่ในแนวไหน ชี้ไปทิศทางใด เพราะเวลาเอาไปลงปลูกใหม่ทิศทางต้องเป็นไปตามทิศทางเดิมตามธรรมชาติ ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยเคมีห้ามใช้รองก้นหลุมต้นผักหวานที่ล้อมมา เพราะความบอบช้ำจากบาดแผลเมื่อเจอความเค็มจากปุ๋ยคอกหรือเคมีอาจทำให้ผักหวานตายลงได้ การปลูกแล้วประสบความสำเร็จต้องใช้ระยะเวลาเป็นตัวชี้วัด หากผักหวานที่ล้อมมาปลูกสามารถเจริญเติบโตอยู่ได้เกินระยะเวลา 2 ปีถือว่าปลอดภัย บำรุงด้วยปุ๋ยคอกได้เลยครับ การใส่ปุ๋ยคอกให้ลึกจากพื้นประมาณ 10 เซ็นติเมตรเอาปุ๋ยคอกใส่ลงไปแล้วเอาดินที่ขุดออกกลบหน้าซ้ำเป็นอันจบครับ
การปลูกผักหวานด้วยเมล็ด
การปลูกผักหวานด้วยเมล็ด
ขั้นตอนการเตรียมเมล็ดผักหวานก่อนลงเพาะชำ
โดยปกติผักหวานป่าจะเริ่มออกดอกในเดือนมีนาคมถึงเมษายนและเมล็ดจะเริ่มแก่ สุกงอม จนกระทั่งสามารถนำมาเพาะชำได้ราวๆ เดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนครับ หากได้เมล็ดผักหวานป่าจากต้นมาแล้ว ถ้าเมล็ดสุกงอมสม่ำเสมอก็ให้เอาเปลือกนอกออกแล้วล้างน้ำเอาเยื่อหุ้มออกผึ่งแดดพอผิวนอกแห้งสัก1-2 ชั่วโมงก็ลงปลูกได้ แต่ถ้าซื้อเมล็ดพันธุ์เขามาน้าวัตรเล่าว่าต้องนำมาบ่มเพื่อให้เมล็ดสุกงอมเสมอกันสัก 1-2 วัน จากนั้นทำการเอาเปลือกออกและล้างผึ่งในที่ร่ม 1-2 วันจึงค่อยน้ำลงปลูกในถุงเพาะชำ พออธิบายมาถึงตรงจุดนี้ทุกคนอาจจะค้านว่าทำไมสองคนบอกเล่าไม่เหมือนกัน ข้อความขัดแย้งกัน แต่เปล่าเลยครับ หากพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าการผึ่งแดดนั้นวิธีการที่ผมได้ทดลองจะผึ่งแดดโดยตรง แต่วิธีของน้าวัตรจะผึ่งในที่ร่ม ซึ่งจุดประสงค์เพียงแค่ทำภายนอกเมล็ดแห้งแต่ภายในยังคงความชุ่มชื้นเหมาะแก่การงอก
การเตรียมดินสำหรับเพาะชำ
สำหรับดินที่จะนำมาเพาะชำผักหวานก็มีส่วนประกอบของแกลบเผา ปุ๋ยคอก และดินเหนียวสำหรับสูตรที่ผมใช้เพาะชำคือ ดินเหนียว 2 ส่วน แกลบเผา 1 ส่วน และ ปุ๋ยคอกอีก 1 ส่วน สำหรับสูตรนี้ไม่ได้ตายตัวสามารถปรับได้ตามความเหมาะสมของตัวท่านเองครับ
การนำเมล็ดผักหวานลงถุงเพาะชำ
ทำการกรอกดินที่จัดเตรียมไว้จากขั้นตอนที่แล้วบรรจุลงถุงหรือกระถางสำหรับเพาะชำกล้าผักหวาน ใส่ดินจนเกือบเต็มภาชนะหรือถุงเพาะชำ เหลือไว้เพียงเล็กน้อยเพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำให้ไหลลงก้นกระถางหรือก้นถุงได้
จากนั้นนำเมล็ดผักหวาน2-3 เมล็ดมาวางและกดเมล็ดลงไปแค่เพียงเสมอพื้นดิน ระวังอย่าฝังกลบเมล็ดผักหวานเพราะจะแทงหน่อไม่ได้และจะหักงอ งอกช้า การเจริญเติบโตก็จะไม่ดีตามไปด้วย
การนำกล้าผักหวานลงปลูก
ในขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการที่ผักหวานจะสามารถเจริญเติบโตได้ดีหรือไม่ ตามคำบอกเล่าของน้าวัตรแกจะปลูกผักหวานเมื่อปักชำลงถุงได้ 50 วันเท่านั้น ทั้งนี้เพราะป้องกันการหักของรากผักหวานหรือถ้าปล่อยต้นกล้าให้อยู่ในถุงเพาะชำนานวันรากจะไปขดม้วนอยู่ที่ก้นถุงเวลาเอาลงปลูกรากก็มักจะขาดทำให้ผักหวานที่ปลูกลงไปตายหรือไม่โต ดังนั้นน้าแกบอกว่าจากการทดลองปลูกมาวิธีการนี้ได้ผลดีที่สุด ขอทบทวนทำความเข้าใจถึงแม้ผักหวานป่าจะเป็นพืชใบเลี้ยงคู่ แต่ระบบรากของต้นผักหวานกลับไม่มีรากในลักษณะรากแก้วยั่งดิ่งลงไปในดินเหมือนพืชใบเลี้ยงคู่อื่นๆ ไม่มีระบบรากฝอย มีรากเพียงไม่กี่ราก แต่ละรากแผ่ออกไปขนานกับพื้นดิน ดังนั้นขอให้ท่านที่คิดจะปลูกผักหวานโดยต้นกล้าที่ซื้อมาจากที่อื่น เวลาเอาต้นกล้าลงปลูกระวังเรื่องรากขาดเพราะเป็นเรื่องใหญ่มีผลต่อการเจริญเติบโต อยู่ หรือตายของต้นผักหวาน เมื่อปลูกลงดินแล้วให้นำกระถางดินเผามาครอบไว้เพื่อให้รู้ว่าต้นผักหวานอยู่ตรงจุดไหน เพราะว่าช่วงแรกๆ ผักหวานต้นเล็ก อ่อนแออาจจะถูกวัชพืชอื่นปกคลุมได้ จึงต้องมีการกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับแปลงปลูกผักหวาน
ผักหวานเป็นพืชที่ชอบแดดรำไร ไม่ทึบเกินไป หรือโปร่งมากจนเกินไป จากไร่ผักหวานของน้าวัตรแกจะใช้การปลูกต้นสักเพื่อให้ร่มเงาแกผักหวาน ส่วนการปลูกผักหวานจะปลูกห่างในระยะ 2-2.5 เมตรต่อต้น การปลูกจะรองหลุมปลูกด้วยปุ้ยคอกและแกลบเผาก็ได้ การให้น้ำในหน้าฝนต้องการแค่การกำจัดวัชพืชเท่านั้น ส่วนหน้าแล้งน้าแกแนะนำว่าให้น้ำ 3 วันครั้งจะเหมาะที่สุด และแปลงที่แกทำอยู่เป็นระบบน้ำหยด
องค์การบริหารส่วนตำบลเพ็ญ สายงานเริ่มต้นจากระดับ ๑ ระดับ ๒ และระดับ ๓ จำนวน ๑๓ อัตรา ตั้งแต่วันที่ ๗ - ๓๑ มกราคม ๒๕๕๗
องค์การบริหารส่วนตำบลเพ็ญ สายงานเริ่มต้นจากระดับ ๑ ระดับ ๒ และระดับ ๓ จำนวน ๑๓ อัตรา ตั้งแต่วันที่ ๗ - ๓๑ มกราคม ๒๕๕๗
๑. ตำแหน่งและหรือสายงานที่เปิดรับสมัครสอบ
ชื่อตำแหน่งและหรือสายงานที่เปิดรับสมัครสอบ
|
จำนวน
|
มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง
|
หมายเหตุ
|
สายงานเริ่มต้นจากระดับ ๑
- ช่างไฟฟ้า
- เจ้าหน้าที่พัสดุ
สายงานเริ่มต้นจากระดับ ๒
- เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
- เจ้าพนักงานธุรการ
- เจ้าพนักงานส่งเสริมสุขภาพ
- เจ้าพนักงานพัสดุ
- เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี
- นายช่างโยธา
สายงานเริ่มต้นจากระดับ ๓
- เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน
- นิติกร
- นักพัฒนาชุมชน
- นักวิชาการเงินและบัญชี
- นักวิชาการศึกษา
|
๑ อัตรา
๑ อัตรา
๑ อัตรา
๑ อัตรา
๑ อัตรา
๑ อัตรา
๑ อัตรา
๑ อัตรา
๑ อัตรา
๑ อัตรา
๑ อัตรา
๑ อัตรา
๑ อัตรา
|
-
|
๒. การรับสมัครสอบแข่งขัน
วิธีการรับสมัคร วัน เวลา รับสมัครสอบ
|
วัน เวลา รับสมัครสอบ
|
ผู้มีความประสงค์จะสมัครสอบ สามารถขอและยื่นใบสมัครพร้อมหลักฐานด้วยตนเองได้ที่ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลเพ็ญ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี สอบถามรายละเอียด โทร. ๐ ๔๒๒๗ ๘๐๑๕
|
ตั้งแต่วันที่ ๗ – ๓๑ มกราคม ๒๕๕๗ ในวันและเวลาหยุดราชการ
|
๓. รายละเอียดเพิ่มเติม คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ เงื่อนไขการรับสมัครสอบ หลักฐานที่ใช้ในการสมัครสอบ อัตราเงินเดือนที่จะได้รับ คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง หลักสูตรและวิธีการสอบ/สรรหา เกณฑ์การตัดสิน การบรรจุแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้
รายละเอียด
|
ลิงค์ประกาศ
|
ลิงค์เอกสารแนบ/ภาคผนวก
|
ประกาศองค์การบริหารส่วนตำบลเพ็ญ เรื่อง รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นพนักงานส่วนตำบลขององค์การบริหารส่วนตำบลเพ็ญ
|
-
|
สมัครสมาชิก:
บทความ
(
Atom
)